ติดตั้งไพธอน นี่คือก้าวแรกก่อนออกไปผจญภัยในดงโค้ดต่าง ๆ นานา เรามาเริ่มต้นที่ก้าวแรกนั่นคือการติดตั้งไพธอนลงเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งทุกวันนี้มันง่ายมาก
ง่ายขนาดไหน?
ถ้าท่านใช้วินโดวส์ สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ต่อเน็ตแล้วเปิด Microsoft Store แล้วค้นหาไพธอน (หรือจะคลิกที่ลิงก์นี้ก็ได้ https://www.microsoft.com/en-en/search?q=python)

หลังจากนั้นก็สบายแล้ว จะเห็นว่ามีหลายเวอร์ชันให้เลือกตามใจปรารถนา อยากได้เวอร์ชันไหนก็จิ้มเลย
ถ้าหากใช้แม็ค: ลองไปดูที่ Homebrew จะเป็นตัวช่วยติดตั้งต่าง ๆ
แล้วถ้าใช้ลีนุกซ์? เท่าที่ทราบก็เห็นมีหลายตัวเช่นกัน แต่เนื่องจากไม่ได้ใช้ลีนุกซ์ เลยไม่ได้ลองสักตัว ขอผ่านไปก็แล้วกัน ให้อภัยกันได้มั้ยล่ะ ?
เราจะสั่งการไพธอนให้ทำงานด้วย Python interpreter ภาษาไทยก็อธิบายกว้าง ๆ ว่ามันคือตัวแปลภาษาไพทอนที่เราเขียนให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและทำตามคำสั่งที่เขียน
- แปลคำสั่งทีละบรรทัด
- ทำงานแบบโต้ตอบ (interactive mode) และโหมดสคริปต์ (script mode)
- สนับสนุนการเขียนโปรแกรมกับ Interactive shell
นี่คือสิ่งสำคัญ ถ้าไม่มี Python interpreter เราเขียนอะไรไปคอมพิวเตอร์ก็ไม่รู้จะไปทำงานต่ออย่างไร นอกจากจะเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้วกลายร่างเป็นสกายเน็ตปล่อยปรมาณูถล่มโลกให้มนุษย์สูญพันธ์ไปเลย
กลับมาที่จุดเริ่มต้นกันก่อน
ไปดาวน์โหลดเฉพาะไพธอนจากผู้ดูแลโดยตรงก็ไปที่ Python Software Foundation (ก็จะมี IDLE เป็น IDE) หรือ ถ้าอยากจะได้แบบครบถ้วน คือนอกจากไพธอนแล้วยังมีเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ มากมาย ก็แนะนำให้ลงแพ็กเกจของ Anaconda (ก็จะมี Spyder เป็น IDE)
คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรติดขัด
ติดตั้งไพธอน จาก Python Software Foundation
แต่หากท่านอยากลองแบบพื้นฐานเลย ก็แนะนำให้ใช้แพ็กเกจของ Python Software Foundation ซึ่งวิธีการลงไม่ยาก ลองมาลง ไพธอน ในเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนดีกว่า
เริ่มจาก ไปที่หน้าดาวน์โหลด https://www.python.org/downloads/ แล้วคลิกดาวน์โหลดเวอร์ชันที่ท่านต้องการตามใจปรารถนาได้เลย

ปกติพอเข้าไปมันจะเลือกเวอร์ชันเวอร์ชันล่าสุดละเนาะ แต่ถ้าใครอยากได้เวอร์ชันอื่นก็เลื่อนลงมาดูนิดนึง
พอดาวน์โหลดตัวติดตั้งเสร็จแล้ว สิ่งที่ทำก็คือ ดับเบิลคลิก เพื่อติดตั้ง แนะนำให้คลิกเลือกที่ “Add Python 3.xx to PATH” เพื่อกำหนด PATH หรือจะ Customise อะไรอื่นก็แล้วแต่ใจ แต่สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ใช้ค่าที่ตั้งมาเป็นค่าตั้งต้นดีกว่า
TIP: ถ้าไม่ได้กำหนด path ตอนติดตั้ง พอลงเสร็จแล้วจะกำหนดภายหลังให้คลิกขวาที่ My Computer เลือกProperty และ Advanced system settings ในหน้าของ Advanced tab คลิกที่ปุ่ม Environment variables… แล้วค่อยกำหนดค่า path ก็ได้
เมื่อติดตั้งสำเร็จ ลองคลิก Start menu จะได้เห็น python shell ซึ่งเราจะเลือกใช้ Command line หรือ IDLE ก็ได้
หรือ อีกทางเลือกหนึ่ง (จากหลายทางเลือก) ลองใช้ Anaconda
ติดตั้งไพธอนด้วย Anaconda
Anaconda จะเรียกว่าเป็นแพ็กเกจสำเร็จรูปก็คงจะได้ คือถ้าคิดในแง่องค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการหัดเรียนเขียนโค้ดแล้ว Anaconda มี compiler (เอาไว้บอกคอมพิวเตอร์ว่าที่เขียนมาจะต้องทำอย่างไร) และ editor ที่อำนวยความสะดวกได้ดี มีตัวช่วยตรวจทานว่าเราเขียนผิดอะไรตรงไหน และมี interactive shell หรือส่วนที่จะแสดงผลให้เห็นได้ทันที
แต่ช่วงหลังถอดออก เพราะรู้สึกมัน “ใหญ่” เกินไป มีอะไรเกินความจำเป็นในการใช้งานประจำวันไปเยอะอยู่
แต่ชอบที่มันลงมาให้ครบ ๆ เพียงพอสำหรับการเรียนรู้และทดสอบ ถ้าท่านต้องการใช้ Anaconda ก็ไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บ https://www.anaconda.com/download
จะรีจิสเตอร์ก่อน หรือไม่รีจิสเตอร์ก็กดดาวน์โหลดได้เช่นกัน
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วก็ดับเบิลคลิกติดตั้งได้เลย
เสร็จแล้ว คลิกดู Navigator จะเห็นโปรแกรมต่าง ๆ ที่มาพร้อมแพ็กเกจ รวมถึง Spyder และ Jupyter Notebook ด้วย
ถ้าลงไพธอนจาก Python Software Foundation แต่อยากใช้ Spyder หรือ Jupyter Notebook ก็ไปดาวน์โหลดมาใช้ต่างหากได้
Tips:
ก่อนอื่นจะการปรับแต่งเล็กน้อยคือ ค่ามาตรฐานของการไฟล์ที่เก็บจะเป็น C:/Users/ชื่อผู้ใช้งาน/AppData/Roaming/jupyter/runtime/xxxxxx.html ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะไฟล์ที่เซฟจากที่เขียนไว้ก็จะมาอยู่ในนี้เหมือนกัน บางทีก็ลืมว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหน หายาก ก็เลยจะมีทริกในการเรียก Jupyter Notebook สักเล็กน้อย
ขั้นแรกจะเปิด Anaconda Prompt ขึ้นมาก่อน ซึ่งมันจะขึ้น folder ที่เป็นค่ามาตรฐานมาให้ จัดการเปลี่ยนให้เป็น folder ที่ต้องการ (ในที่นี้คือจะเปลี่ยนเป็น D:\Temp ใช้คำสั่ง cd/d ตามด้วย path ของ folder ที่ต้องการ
เมื่อเปลี่ยน folder แล้ว ก็พิมพ์ Jupyter Notebook เพื่อเรียกใช้ Jupyter Notebook มาใช้ ซึ่งเมื่อเรียกเสร็จ จะเปิด browser ขึ้นมาเพื่อให้ใช้งาน หน้าตาจะคล้ายคลึงกับ Explorer คือจะแสดงรายกาย Folder หรือว่า file ที่อยู่ใน D:\Temp ขึ้นมา
ลองเปิด Editor ขึ้นมาดู คลิก New > Python 3 จะได้หน้าต่างแบบนี้
ซึ่งจะเขียนโค้ดกันตรงที่ Cell ซึ่งจะเป็นได้ทั้ง Code หรือ Mark Down หรือ Raw NBConvert หรือ Heading ซึ่งส่วนใหญ่ที่ใช้กันบ่อยก็คือ Code กับ Mark Down
เพียงเท่านี้เองสาธุชนผู้มีจิตอันเป็นกุศล เราท่านพร้อมแล้วที่จะเรียนรู้ไพธอนไปด้วยกันแล้ว!

Learning Python
รวมบล็อกที่เกี่ยวกับเรื่องพื้นฐานของไพธอน