QGIS 3: แนะนำ

เผยแพร่เมื่อ:

ปรับปรุง/แก้ไขล่าสุดเมื่อ:

QGIS 3 เป็นซอฟต์แวร์สำหรับทำงานด้าน GIS (Geographic Information System – ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์) ซึ่งปัจจุบันมีคนหันมาใช้กันมากขึ้น 

QGIS 3 ใช้ทำอะไร?

QGIS เป็นซอฟต์แวร์สำหรับทำงานด้าน GIS อธิบายรวบรัดที่สุดก็คือ ซอฟต์แวร์ด้านแผนที่ แต่ จะมีการบันทึกข้อมูลประกอบอื่น ๆ เข้าไปในแผนที่ด้วย

ความเป็นมา

 Gary Sherman (shermange) ก่อตั้งโครงการทำซอฟต์แวร์ด้าน GIS ที่ SourceForge อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน เขาเริ่มระดมสมองนักพัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ใช้งานง่าย 

เวอร์ชันแรกสำหรับบุคคลทั่วไป ออกมาเมื่อปีค.ศ. 2009 ในชื่อ Quantum GIS แต่เปลี่ยนเป็น QGIS ตั้งแต่ QGIS 2 เป็นต้น

ข้อดีของ QGIS

ฟรี! ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น อาจจะแค่ค่าอินเตอเน็ตเพื่อดาวน์โหลดตัวติดตั้งมาติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้นเอง แต่เมื่อดาวน์โหลดตัวติดตั้งได้แล้ว จะนำไปติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ร้อยเครื่องพันเครื่องก็ได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

Opensource – สามารถนำ Source Code ไปพัฒนาต่อหรือไปดัดแปลงเพื่อที่จะใช้งานเฉพาะทางอย่างได้ โดยให้สัญญาอนุญาตประเภท สัญญาอนุญาตสาธารณะทั่วไป หรือ General Public License หมายความว่า จะนำไปดัดแปลงใช้งานได้ แต่ต้องให้สัญญาอนุญาตแบบเดียวกันต่อไปด้วย

ปลั๊กอินส์ – นอกจากตัว QGIS จะมีศักยภาพที่ดีแล้ว ยังมีปลั๊กอินส์เพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นไปอีก และมีกลุ่มนักพัฒนาเป็นจำนวนมากอีกด้วย

รองรับไฟล์หลายรูปแบบ – คือ นอกจากไฟล์ของ QGIS เองแล้ว ตัว QGIS สามารถเปิดไฟล์ของซอฟต์แวร์อื่นได้ เช่น เชปไฟล์ (ESRI Shapefiles) ArcInfo Binary Coverage เลเยอร์ของ MapInfo Text File  .xlsx ของ Excel หรือ Oracle Spatial ก็ได้

การที่ QGIS รองรับรูปแบบไฟล์ที่หลากหลาย ทำให้เราร่วมงานกับคนอื่น หรือ ต้องทำงานต่อจากคนอื่นซึ่งบางทีใช้ซอฟต์แวร์ต่างจากเรา จะช่วยร่นระยะเวลาการทำงานไปได้พอสมควร

QGIS พัฒนามาเพื่อให้ใช้กับระบบปฏิบัติการหลายแบบ ทั้ง Windows Mac Linux Unix Android และนอกจากนี้ยังกำหนดเป็นแผนการชัดเจนว่าจะต้องปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง มีเวอร์ชันใหม่ออกมาทุก 4 เดือน

ซึ่งพวกนี้คือ ข้อดีของ QGIS ที่ทำให้มีคนใช้งานมากมาย

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ QGIS