Virtual Raster VS Merge

เผยแพร่เมื่อ:

ปรับปรุง/แก้ไขล่าสุดเมื่อ:

Virtual Raster VS Merge ควรเลือกใช้วิธีไหนดี ? ทั้งสองอย่าง เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร ทำไมคนถึงนิยมใช้คำสั่ง Merge มากกว่า

Virtual Raster VS Merge ควรเลือกใช้วิธีไหนดี ? ทั้งสองอย่าง เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร ทำไมคนถึงนิยมใช้คำสั่ง Merge มากกว่า

ถ้าอย่างนั้น DataRevol.com คงเป็นชนส่วนน้อย เพราะชอบ VRT มากกว่า

Virtual Raster VS Merge

ทั้ง Virtual Raster และ Merge เป็นการรวม raster หลายไฟล์เข้ามาเป็นไฟล์สำหรับทำงานเดียว

สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนที่สุดก็คือ Virtual Raster ไม่ได้เอาราสเตอร์มารวมเป็นไฟล์ใหม่ แต่สร้าง Virtual Raster เพื่อลิงก์ราสเตอร์ต้นฉบับเข้ามาทำงานเสมือนเป็นราสเตอร์ใหญ่ ส่วน Merge เป็นการรวมราสเตอร์เป็นไฟล์ใหม่

อันนี้คือความแตกต่างที่ชัดเจน และที่ว่าทำไมคนจึงนิยมใช้ Merge ก็เพราะได้ไฟล์ใหม่ที่นำไปใช้งานอื่น ส่งต่อให้คนอื่นได้สะดวกกว่า

ในบล็อกนี้จึงจะมาพูดถึงรายละเอียดว่า ข้อดี ข้อเสีย ที่ทำให้ Virtual Raster กับ Merge ต่างกันมันมีอะไรบ้าง เผื่อจะช่วยให้ท่านผู้อ่านตัดสินใจได้ว่า งานที่กำลังทำนั้นเหมาะกับวิธีไหนมากกว่ากัน

Virtual Raster (VRT):

สำหรับการสร้าง Virtual Raster นี้ ใน QGIS จะใช้เครื่องมือ Build Virtual Raster ส่วนใน ArcGIS Pro จะใช้คำว่า Mosaic

อ่านรายละเอียด (ภาษาอังกฤษ)เกี่ยวกับฟังก์ชัน Build Virtual Raster ของ QGIS  ที่ https://docs.qgis.org/3.28/en/docs/user_manual/processing_algs/gdal/rastermiscellaneous.html#build-virtual-raster

ส่วนของ ArcGIS Pro อ่านได้ที่ https://support.esri.com/en-us/knowledge-base/how-to-merge-multiple-raster-datasets-into-a-new-raster-000022861

สร้างชุดข้อมูลเสมือน: ไม่ได้รวมราสเตอร์เป็นไฟล์ใหม่ แต่จะสร้างไฟล์ VRT ที่ใช้ XML ทำหน้าที่เชื่อมโยงราสเตอร์ต้นฉบับเข้ามารวมไว้ด้วยกัน

  • ลดไฟล์ซ้ำซ้อน: เนื่องจากเป็นการสร้างความเชื่อมโยงไฟล์เดิม ทำให้ไม่มีการสร้างไฟล์ราสเตอร์ ลดไฟล์ซ้ำและช่วยประหยัดพื้นที่ดิสก์ ซึ่งมีผลอย่างมากถ้าต้องทำงานกับราสเตอร์ขนาดใหญ่ หรือมีจำนวนมาก หรือมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย
  • เร็ว: โดยทั่วไป การสร้าง VRT มักจะเร็วกว่าการรวมราสเตอร์เป็นไฟล์ใหม่
  • ความยืดหยุ่น: สามารถเพิ่มหรือลบราสเตอร์ออกจาก VRT ได้อย่างง่ายดายไม่ต้องสร้างขึ้นใหม่ ถ้าเป็นงานที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงราสเตอร์บ่อย ๆ จะสะดวกกับการทำงานมาก
  • เปลี่ยนแปลงตามต้นฉบับ: หากมีการเปลี่ยนแปลงกับราสเตอร์ต้นฉบับ จะส่งผลเปลี่ยนแปลงนั้นใน VRT ด้วย
  • ฟังก์ชันการทำงานโดนจำกัด: การดำเนินการบางอย่างจำเป็นจะต้องใช้ราสเตอร์ ซึ่งการทำเป็น VRT อาจจะไม่สามารถดำเนินการได้

Merge:

https://docs.qgis.org/3.28/en/docs/user_manual/processing_algs/gdal/rastermiscellaneous.html#merge

  • รวมราสเตอร์เป็นไฟล์ใหม่: สร้างไฟล์ราสเตอร์ใหม่ซึ่งมีข้อมูลเหมือนกับไฟล์ราสเตอร์ต้นฉบับทั้งหมด
  • ฟังก์ชั่นเต็มรูปแบบ: สามารถใช้ราสเตอร์ที่ผสานได้เหมือนกับไฟล์ราสเตอร์อื่นๆ โดยไม่มีข้อจำกัดเช่น VRT
  • ไฟล์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับต้นฉบับอีกต่อไป: หมายถึง การดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดใดในต้นฉบับจะไม่ส่งผลต่อไฟล์ที่ Merge มาใหม่นี้ หากจะแก้ไขใดใดต้องแก้ไขที่ราสเตอร์ใหม่ ที่ผสานจะแยกจากต้นฉบับ และจะไม่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
  • การทำสำเนาข้อมูล: อาจใช้พื้นที่ดิสก์มากขึ้น
  • กระบวนการที่ช้ากว่า: การ Merge อาจใช้เวลานานกว่า โดยเฉพาราสเตอร์ขนาดใหญ่

เราจะเลือกใช้อะไร:

แล้วก็มาถึงคำถามสำคัญว่า เราจะเลือกใช้วิธีไหนดี คำตอบก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะทำงานอะไร

เลือก Virtual Raster ถ้า…

  • ต้องการแสดงภาพราสเตอร์ขนาดใหญ่โดยไม่ต้องสร้างขึ้นใหม่ ลดข้อมูลซ้ำซ้อน
  • สร้างภาพโมเสกอย่างรวดเร็วเพื่อดูหรือวิเคราะห์
  • ทำงานกับราสเตอร์ที่อัปเดตบ่อย
  • เก็บรักษาราสเตอร์ต้นฉบับโดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับไฟล์ ในขณะที่ทำงานกับ VRT

เลือก Merge ถ้า…

  • ต้องการสร้างราสเตอร์แยกต่างหากสำหรับการแจกจ่ายหรือเก็บถาวร
  • การดำเนินการที่ต้องมีการเข้าถึงข้อมูลราสเตอร์โดยตรง
  • ต้องทำงานหรือนำไฟล์ไปใช้กับซอฟต์แวร์ที่ไม่รองรับ VRT
  • ต้องการสร้างราสเตอร์ที่มีขนาดพิกเซลและโปรเจ๊กชันที่สอดคล้องกัน

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • ทั้งสองวิธี ให้ Pixel alignment เท่ากัน
  • ถ้าหากเจอค่าที่ไม่มีข้อมูล Merge จะจัดการกับค่าที่ไม่มีข้อมูลแตกต่างจาก VRT ซึ่งอาจส่งผลต่อผลการวิเคราะห์
  • การจัดการแบนด์: พิจารณาว่าแต่ละวิธีจัดการกับแบนด์หลายอันในอินพุตราสเตอร์อย่างไร

ต่าง ๆ เหล่านึ้ฝากไว้ให้พิจารณาเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง

Exit mobile version