ไวรัสซ่อนไฟล์

เผยแพร่เมื่อ:

ปรับปรุง/แก้ไขล่าสุดเมื่อ:

ไวรัสซ่อนไฟล์ ตัวเก่าโบราณนานนมกลับมาระบาดในที่ทำงานอีกครั้ง ไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวนี้ไม่ร้ายแรงแต่สร้างความรำคาญได้ไม่หยุดหย่อน แต่ที่งงมากไปกว่านั้นคือปกติแอนตีไวรัสทุกตัวที่รู้จักจะสกัดกั้นได้ แต่มันกลับมาระบาดในที่ทำงานได้อีกบางทีก็อาจจะหมายถึงระบบป้องกันไวรัสมีปัญหา หรือว่าคนไม่ใส่ใจ…

ต้องบอกก่อนว่าการเขียนคราวนี้ไม่มี Screenshot ประกอบ เพราะเขียนหลังจากที่แก้ปัญหาในคอมพิวเตอร์ของคนอื่น ส่วนเครื่องของตัวเองไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เลยไม่สามารถจับ screenshot ให้ดูประกอบได้

อาการของ ไวรัสซ่อนไฟล์

ตอนเปิดแฟลชไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ได้ตามปกติ แต่พอผ่านไปสักพักเข้าไปดูไฟล์เหลือแต่ Autorun.inf อยู่ไฟล์เดียว ไฟล์อื่นหายหมด หรือเห็นเป็นไฟล์ shortcut

วิธีแก้

อาการ “ไฟล์หาย” เหมือนที่เคยเจอมาแล้วหลายปี ไวรัสซ่อนไฟล์ ทำให้ดูเหมือนว่าไฟล์หาย แต่ความจริงซ่อนไฟล์เอาไว้ สังเกตเห็นว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่โดนนั้นมีโปรแกรมแอนตีไวรัสอยู่จริงแต่ไม่ได้อัปเดตมานานและหมดอายุไปแล้ว ก็เลยดำเนินการให้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1

uninstall แอนตีไวรัสตัวเดิมออก เพราะหมดอายุ ไม่สามารถอัปเดตอะไรได้ และลง AVAST กับ Malwarebytes ให้ (สองตัวนี้มีเวอร์ชันฟรีให้โหลดมาใช้) อัปเดตฐานข้อมูลไวรัสเป็นตัวล่าสุด แล้วจัดการ Full scan 

ถ้าเครื่องใครมีแอนตีไวรัสที่ยังใช้ได้ก็แค่อัปเดตให้แน่ใจว่ามี virus database ล่าสุดและทำ Full scan ไม่จำเป็นต้องใช้ AVAST

ขั้นตอนที่ 2

จากนั้น เปิด windows explorer (หรือ My Computer) 

คลิกเมนู View > Options > Change Folder and Search option (อันนี้ใช้ windows 10 ถ้าใช้เวอร์ชันอื่นอาจจะแตกต่างจากนี้บ้าง)

ไปที่หน้าต่าง Folder Option เลือกแท็บ View ติ๊กตรง show hidden files, folders and drives

แล้วเอาติ๊กตรง hide protect operating system files (Recommend) ออก

ขั้นตอนที่ 3

เข้าไปที่ไดร์ฟของแฟลชไดร์ฟ (จะเป็น E F G H etc. อะไรก็ตามแต่ เลือกเมนู View > Detail หาว่ามีโฟล์เดอร์อะไรที่ไม่มีชื่อบ้าง ที่ให้เลือกเป็น detail เพราะจะได้เห็นรายละเอียดประเภท (Type) ซึ่งที่ไม่มีชื่อนั้นจะมี Type เป็น folder ให้คลิกตัวไม่มีชื่อนี้แล้วคลิกขวา rename (หรือจะกด F2 ก็ได้) ตั้งชื่อเอาตามสะดวกที่จำได้ง่าย ๆ แล้วปิดไป (สำคัญมากตรงที่ ขอแค่เปลี่ยนชื่อ อย่าทะลึ่งคลิกเปิดโฟลเดอร์มาดู เพราะอาจทำให้ไวรัสแพร่จากแฟลชไดร์ฟเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้)

ขั้นตอนที่ 4

คลิก Start / Search พิมพ์ cmd กด Enter จะได้หน้าจอ command prompt ขึ้นมา พิมพ์คำสั่งตามที่ให้นี้แล้วกด enter สมมติว่าแฟลชไดร์ฟเป็นไดร์ฟ I เครื่องใครเป็นอักษรอื่นก็เปลี่ยน I ไปตามอักษรไดร์ฟของแต่ละคน

attrib -h -r -a -s /s /d i:*.*

หมายเหตุ คำสั่งนี้แค่แก้ให้เห็นไฟล์ แต่ไม่ได้ฆ่าหรือกำจัดไวรัสออกจากเครื่องแต่อย่างใด หลายคนเอาคำสั่งนี้ไปใช้แต่ไม่ยอมฆ่าไวรัส มันก็วนกลับมาติดอีกรอบก็ต้องแก้อีกรอบ

ขั้นตอนที่ 5

เปิด windows explorer กลับมาที่ Drive I แล้วลบไฟล์แปลก ๆ ไปให้หมด รวมทั้งไฟล์ shortcut ต่าง ๆ ด้วย

ขั้นตอนที่ 6

ใช้ malwarebite สแกน

หรือถ้าอยากให้แน่ใจจะล้างไวรัสเองก็ขอให้ คลิก Start / Search พิมพ์ REGEDIT เลือกแท็บ EDIT คลิก Find (หรือ กด Ctrl + F ก็ได้)

ตัวที่เราหาชื่อ documents.vbe ถ้าหาเจอ ขอให้จำตำแหน่งที่ตั้งของไฟล์นี้ไว้ (เขียนไว้เลยว่าอยู่ตรงไหน)

แล้วออกที่ windows explorer ไปที่ตำแหน่งที่ตั้งของไฟล์นั้นแล้วลบทิ้ง อาจจะต้องใช้ task manager (CTRL+ALT+DEL) เพราะมันจะฟ้องว่ามีโปรแกรมกำลังใช้งานไฟล์นี้อยู่ ให้เรียก task manager หา Wscript.exe คลิกขวาที่ตัวนี้แล้วเลือก End Task แล้วค่อยลบdocuments.vbe

จะให้ดีตามลบ Documents.vbe ใน registry ด้วยก็ดี หรือเอาง่าย ๆ ใช้ malwarebites เถอะ สะดวกดี

สุดท้ายดึงไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ที่เราตั้งชื่อใหม่มาใช้งานได้ตามปกติ

ย้ำอีกที

แนะนำให้ลงแอนตีไวรัสในเครื่อง ที่ใช้อยู่ประจำคือ AVAST กับ Malwarebytes แต่จะใช้ตัวอื่นก็ได้ ขอเพียงอัปเดตสม่ำเสมอ ถ้ากังวลเรื่องไวรัสที่มากับแฟลชไดร์ฟ แนะนำให้ลง AutoRunExterminator หรือ autorun delete

ทั้ง 4 ตัวนี้สามารถใช้ได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ลองใช้ google ค้นหาและดาวน์โหลดมาใช้

อธิบายคำสั่ง DOS กันสักหน่อย

attrib ก็คือ attribute เป็นคำสั่งให้แก้ไข attribute (คุณสมบัติ) ของไฟล์หรือโฟลเดอร์ต่าง ๆ

– คือ clear หรือ ยกเลิกคำสั่ง (คำสั่งตรงข้ามกันก็คือ +)

H คือ Hidden file ไฟล์ที่ซ่อนไว้ไม่ให้เห็นใน Explorer

S คือ System file ไฟล์ระบบ

A คือ Archived file ไฟล์ที่มีบีบอัดอยู่ร่วมกัน

R คือ Read-only file ไฟล์ที่อนุญาตให้อ่านอย่างเดียว แก้ไขไม่ได้

/S คือ รวม subfolder

/D คือ directory หรือ folder

i:*.* คือไดร์ฟ I (เปลี่ยนตัวอักษรไปตามไดร์ฟที่ต้องการ) *.* เป็น wildcard คือไฟล์ทุกชื่อทุกนามสกุล เอาทั้งหมด

อย่าง -H ก็คือยกเลิกการซ่อนไฟล์ ถ้า +H ก็คือสั่งให้ซ่อนไฟล์

คำสั่ง attrib -h -r -a -s /s /d i:*.* นี้ถ้าแปลเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ก็คือ เปลี่ยนคุณสมบัติไฟล์ในไดร์ฟ I ทั้งหมดในไดเร็กทอรีนี้รวมทั้งซับไดเร็กทอรีทั้งหมด ให้ยกเลิกการซ่อนไฟล์ ยกเลิกการบีบอัด ยกเลิกให้อ่านอย่างเดียว ยกเลิกว่าเป็นไฟล์ของระบบ

ย้ำอีกที คำสั่ง attrib -h -r -a -s /s /d i:*.* แค่แก้ปัญหาเรื่องซ่อนไฟล์ แต่ไม่ได้กำจัดไวรัส!!!

ข้อสังเกต

ถ้าใช้คำสั่ง attrib ใน dos นี้แล้ว แต่ขึ้นว่า Access Denied เป็นไปได้ว่าเจ้าไวรัสมี process อยู่ ให้เปิด Task manager มาดูว่า Process ตัวไหนน่าสงสังกำลังทำงานอยู่บ้าง โดยคลิก Details แล้วสังเกตตรง Description อันไหนที่ว่างไว้นี่ก็น่าสงสัย ลองคลิกขวาเข้า Properties ดู Details >> Copyright ถ้าไม่มีชื่อบริษัทหรือชื่อแปลก ๆ ก็อาจจะเป็น process ของไวรัส ลองเอาชื่อมาค้นในกูเกิลเพื่อความแน่ใจอีกทีก็ได้

ถ้ายังเห็นไฟล์อยู่แต่ไฟล์เป็นภาษาต่างดาว อาจจะเป็นไปได้ว่าแฟลชไดร์ฟเสีย ลองอ่านบทความนี้ประกอบ

Exit mobile version