You are currently viewing เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก

เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก

เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก เป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพราะต้องเจอปัญหาแบตเตอรีโน้ตบุ๊กเสื่อมกันทุกคน ถ้ามีเวลาลองเช็คแบตเตอรีน้ตบุ๊กเพื่อใช้เป็นข้อตัดสินใจในการเปลี่ยนแบตเตอรีกันบ้าง

อายุแบตเตอรีถ้านับแบบจริงจังจะนับเป็น cycle หรือรอบการชาร์จไฟ ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามคุณภาพของแบตเตอรี แต่ถ้าคิดคร่าว ๆ พอใช้ไปสักปีสองปีจะเริ่มเห็นอาการว่าแบตเตอรีมันใช้งานได้ไม่นานเหมือนเมื่อออกมาแรก ๆ แล้ว

สำหรับผู้ใช้โน้ตบุ๊กเป็นประจำ ก็คงสังเกตง่าย ๆ ด้วยตัวเองว่าเดิมตอนใช้เครื่องแรก ๆ จะใช้งานได้ยาวนานอาจจะสักสามหรือสี่ชั่วโมง แต่ตอนนี้อาจจะเหลือสักชั่วโมงหรือสองชั่วโมง ซึ่งควรตรวจสอบเบื้องต้นก่อนดดยปิดการทำงานของโปรแกรมทั้งหมด ลดแสงหน้าจอลงให้มากที่สุด ปิดการเชื่อมต่อทุกทางไม่ว่าจะเป็น Bluetooth หรือ wifi ถ้าปิดหมดแล้วยังเปิดโน้ตบุ๊กได้ไม่นานก็แสดงว่าแบตเตอรีเสื่อมไปแล้ว

ทีนี้ถ้าเราอยากจะเช็คแบตเตอรีที่เราใช้งานว่ามันยังคงดีอยู่หรือเสื่อมไปขนาดไหนแล้วจะทำอย่างไร? สมัยที่ใช้เครือง Toshiba จะมี utility ติดเครื่องมาคอยตรวจสอบ ถึงเวลาแบตเสื่อมจนต้องเปลี่ยนแบตเตอรีมันจะขึ้นเตือนสถานะแบตเตอรีว่าเปลี่ยนได้แล้ว แบตเสื่อมสภาพเกินใช้งานแล้ว แต่พอเปลี่ยนมาเครื่องนี้ ไม่มีตัวช่วยแบบนั้น ตอนแรกก็อาศัยโปรแกรม BatteryCare ช่วย แต่ภายหลังก็พบว่าไม่จำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมประเภทนี้เลย เพราะสามารถใช้ command prompt ในเครื่อง (Windows 10) เช็คเอาเองดังนี้

YouTube player

เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก

ขั้นแรก เปิด windows powershell มาใช้  หรือจะ กด windows + x แล้วเลือก Command Prompt (Admin) มาใช้ ตรงนี้ถ้าคุณเลือก Command Prompt แบบไม่ใช่ Admin ก็ได้ แต่เคยมีปัญหาว่าไม่เลือกแบบ (Admin) แล้วไฟล์ที่สั่งให้เขียนไม่สามารถเขียนในโฟลเดอร์ system 32 ได้ เพราะไม่ได้สิทธิ์ของ Admin

ดังนั้น โดยส่วนตัวจะเลือกใช้ powershell มากกว่า เพราะใช้งานง่ายดี

เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก

จากนั้นใช้คำสั่ง

powercfg /batteryreport

กด enter

มันจะขึ้นมาว่าเก็บไฟล์รายงานในชื่อ battery-report.html ไว้ที่ไหน ก็ดูตามพาร์ตที่ให้มาแล้วไปเปิดดู

ตัวเลขที่ต้องตรวจสอบก็คือ ค่า Design Capacity ตัวนี้จะบอกว่าแบตเตอรีรุ่นนี้ออกแบบมาให้เก็บความจุเท่าไหร่ ตอนออกจากโรงงาน และอีกตัวคือ Full Charge Capacity จะบอกว่าตอนนี้ ถ้าชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะเก็บไฟได้เท่าไหร่

เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก

อย่างที่เห็นนี่ค่าเก็บประจุลดประสิทธิภาพไปเกินครึ่งหนึ่งแล้ว อีกไม่นานก็คงต้องเปลี่ยนแบตเตอรี

นอกจากนี้ยังมีประวัติการเก็บค่าต่าง ๆ ของแบตเตอรีให้ดูด้วยว่าเคยใช้งานได้ขนาดไหนอย่างไรในช่วงเวลาที่ผ่านมา

เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก
เช็คแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก

สำหรับเครื่อง Macbook สามารถกด option คลิกขวาที่ไอคอน Battery ก็จะเห็นสถานะของแบตเตอรีเลย

การดูแลรักษา

อย่างที่บอกข้างต้นว่า แบตเตอรีจะมีอายุนับตามรอบการชาร์จหรือใช้งาน ซึ่งคิดคร่าว ๆ ก็ราว ๆ ปีหรือสองปีก็จะเริ่มเสื่อมแล้ว แต่ก็ควรดูแลรักษาแบตเตอรีกันตามสมควรเพื่อไม่ให้มันเสื่อมเร็วกว่าปกติ เพราะแบตฯ ตัวหนึ่งราคาหลายบาทอยู่

ดังนั้น สำหรับแบตเตอรีประเภท Lithium-ion และ Lithium-Polymer มีข้อแนะนำว่า ใช้งานไปเถอะ ถึงเวลามันก็เสื่อมเอง ยังไงก็เสื่อม!!!

เคยมีความเชื่อกันว่า ถ้าจะชาร์จแบตฯ ควรชาร์จเมื่อระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ 65-70% จะดีที่สุด หรือถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ควรชาร์จเมื่อแบตฯ เหลือมากกว่า 30% อันนี้เคยมีคนทดลองได้ผลว่าถ้าชาร์จแบตเตอรี่ที่ระดับต่ำกว่า 30% จะสามารถชาร์จได้ประมาณ 300 รอบ แต่หากเราชาร์จที่ระดับมากกว่านั้นจะสามารถชาร์จได้มากกว่า 400-500 รอบ

มันเป็นความเชื่อที่ผิดสำหรับแบตประเภท Lithium

เพราะจำนวนรอบของแบตประเภท Lithium-ion และ Lithium-Polymer นี้จะนับรอบจาก 0 – 100% นับเป็น 1 รอบ เช่น ถ้าครั้งนี้ชาร์จจาก 50% ไปเต็ม 100% ถือว่าชาร์จไปครึ่งรอบ ถ้าเราชาร์จจาก 50% ไปเต็ม 100% อีกครั้ง ก็คืออีกครึ่งรอบ รวมสองครั้งถือเป็น 1 รอบ

ความจริงเราอาจไม่ซีเรียสกับการชาร์จแบตเตอรี ที่ระดับเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ แต่ไม่ควรใช้งานจนแบตฯ หมด แต่ปกติโน้ตบุ๊กหรือสมาร์ตโฟนจะมีการแจ้งเตือนเมื่อแบตฯเหลือน้อยอยู่แล้ว จึงควรสังเกตคำเตือนเรื่องแบตไว้สักหน่อย

สำหรับแบตเตอรีโน้ตบุ๊ก ปกติเมื่อชาร์จเต็มจะตัดไฟ ต่อตรงเข้าเครื่องเลย การเสียบชาร์จทิ้งไว้จึงไม่ทำให้อุปกรณ์เสียหาย ไม่เหมือนกับพวกสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตที่ไม่ควรชาร์จทิ้งไว้ แบตฯ เต็มควรเอาออก

ต้องเข้าใจธรรมชาติของแบตก่อนว่ามันจะเสื่อมแน่นอน คือเมื่อใช้งานมีการชาร์จไฟและใช้งานตามจำนวน Cycle แบตฯ จะเริ่มเสื่อมเองตามปกติ หรือบางที ถึงเราจะไม่ใช้แบตฯ เลย (บางคนถอดแบตฯ ไม่ยอมใช้) แบตฯ ก็เสื่อมได้เมื่อถึงเวลา คืออายุมันเริ่มนับถอยหลังนับจากวันผลิตแล้วล่ะ

และถ้าอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิสูง แบตฯ ร้อนก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติได้

หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้าง


Discover more from Data Revol

Subscribe to get the latest posts sent to your email.