Blog

Add Geometry เครื่องมือสำหรับเติมข้อมูลด้าน geometry ในกรณีที่ Attribute Table ไม่มีพิกัด x, y

สำหรับบล็อกนี้ เราจะทำงานในซอฟต์แวร์ QGIS

เนื่องจากผู้ร่วมงานบางท่านได้ปักหมุดสนใจไว้ในกูเกิลเอิร์ธ และต้องนำมาใช้งานต่อ และสิ่งที่ต้องนำมาใช้งานต่อ ต้องเป็นค่าพิกัด x,y ในแอตทริบิวต์เทเบิล แต่ในไฟล์ KML ที่ส่งออกมาจากกูเกิลเอิร์ธไม่มีค่าพิกัดนี้มาด้วย แบบนี้จะต้องทำอย่างไร?

Add Geometry Attribute

ค่าพิกัด x,y นี้เป็น geometry ประเภทหนึ่ง ดังนั้น สิ่งที่เราทำก็คือการ เติมค่าพิกัดเข้าไปในแอตทริบิวต์เท่านั้นเอง

วิธีการก็คือ

เปิด QGIS และนำไฟล์ KML เข้ามาพื้นที่ทำงาน

เรียก Add Geometry Attribute ขึ้นมา

ซึ่งวิธีการเรียกหน้าต่างนี้ขึ้นมา ทำได้ 2 ทาง เลือกทางใดทางหนึ่งที่สะดวก

1. ไปที่เมนู Vector > Geometry Tools > Add Geometry Attribute
2. ไปที่หน้าต่าง Processing Toolbox Pane (ถ้าไม่ได้เปิดหน้าต่างนี้เอาไว้ ให้คลิกที่เมนุ Processing ด้านบน แล้วคลิกเลือก Toolbox) เลือกหัวข้อ Vector Geometry แล้วเลือก Add Geometry Attribute (Tip หรือจะพิมพ์ค้นหา Processing Toolbox Pane ตรงช่อง search เลยก็ได้

เมื่อหน้าต่าง Add Geometry Attribute ปรากฏขึ้น ในแท็บ Parameter จะมีอยู่ 3 ช่องที่เราต้องใส่ข้อมูล

1. input layer – เลือกเลเยอร์ที่เราต้องการเพิ่มค่าพิกัด (ในกรณีที่เลเยอร์นี้มีการเลือกข้อมูลไว้ เราอาจจะติ๊กถูกตรง select features only ถ้าเราต้องการเติมข้อมูลแค่ที่เราเลือกเอาไว้)
2. calculate using – เลือกระบบพิกัดที่จะใช้คำนวณ (ปกติชั้นเลเยอร์นั้นจะมีระบบพิกัดฝังอยู่แล้ว ใช้ระบบพิกัดจากชั้นเลเยอร์เลยก็จะสะดวก แต่บางครั้งเราอาจจะใช้ระบบพิกัดจากโปรเจ็กต์ หรือกำหนดระบบพิกัดต่างออกไปก็ได้เช่นกัน)
3. Add Geom Info – เป็นการตั้งเลเยอร์ผลลัพธ์ ซึ่งตรงนี้เราปล่อยว่างไว้ก็ได้ ผลลัพธ์จะเป็น temp layer ซึ่งเราเซฟเก็บภายหลังก็ได้ หรือ ถ้าเราจะส่งออกเป็นเชปไฟล์เลย เราก็ต่างค่าโดยเลือกที่เก็บเชปไฟล์และตั้งชื่อจากตรงนี้ได้เลย

กด Run

เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

อ้างอิง เรื่อง Add Geometry Attribute จากเว็บ QGIS