Operators ใน Excel (หรือตัวดำเนินการ) จะเป็นการกำหนดว่า เราจะทำอะไรกับสิ่งนั้น ตัวดำเนินการที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือการ บวก ลบ คูณ หาร แต่ก็มีตัวดำเนินการอื่น ที่จะใช้ร่วมกับฟังก์ชันหรือว่าการเขียนสูตรต่าง ๆ สำหรับการคำนวณ แต่ก็ยังมีตัวดำเนินการอย่างอื่น เช่น ตัวดำเนินการอ้างอิง – Reference Operators เช่น ทวิภาค หรือ โคลอน ในการกำหนดช่วง หรือการเปรียบเทียบ มากกว่า น้อยกว่า ก็เป็นตัวดำเนินการเปรียบเทียบ หรือว่า – Logical/Comparison Operators
เนื้อหาโดยรวม :)
ประเภทของ Operators ใน Excel
ประเภทตัวดำเนินการ แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่ คือ
ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ – Arithmetic Operators
ตรงนี้ก็คือ บวก ลบ คูณ หาร ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง
+ | เครื่องหมายบวก หรือ plus | ใช้สำหรับการบวก |
– | เครื่องหมายลบ หรือ minus | ใช้สำหรับการลบ |
* | เครื่องหมายดอกจัน หรือ asterisk | ใช้สำหรับการคูณ |
/ | เครื่องหมายทับ หรือ forward slash | ใช้สำหรับการหาร |
% | เครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ หรือ Percent | ใช้สำหรับเปอร์เซ็นต์ |
^ | เครื่องหมายคาแรต หรือ carat | ใช้สำหรับยกกำลัง |
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ – Logical/Comparison Operators
การดำเนินการเปรียบเทียบ จะแสดงผลลัพธ์เป็น จริง กับ ไม่จริง ซึ่งจะมีตัวดำเนินการดังนี้
= | เท่ากับ |
> | มากกว่า |
< | น้อยกว่า |
>= | มากกว่าหรือเท่ากับ |
<= | น้อยกว่าหรือเท่ากับ |
<> | ไม่เท่ากับ |
ตัวดำเนินการเชื่อมข้อความ – Text Concatenation Operator
การใช้ตัวดำเนินการเพื่อเชื่อมข้อความ โดยจะใช้ เครื่องหมาย & (ampersand) ใช้สำหรับเชื่อข้อความ
ตัวดำเนินการอ้างอิง – Reference Operators
เป็นตัวดำเนินการสำหรับอ้างอิงช่วง ตำแหน่ง เรื่องนี้เคยพูดถึงละเอียดไปแล้ว ในเรื่อง การอ้างอิงตำแหน่งเซลล์ และ การอ้างอิงตำแหน่งแบบ A1 Notation
: | ทวิภาค หรือ colon | กำหนดช่วง |
, | จุลภาค หรือ comma | รวม (union) |
วรรค หรือ space | ช่วงที่ซ้อนกัน (intersect) | |
# | pound | สำหรับ # มีหลายความหมาย เช่น แสดงแทนข้อผิดพลาด หรือเป็นตัวแสดช่วงทั้งหมดใน Array |
@ | At | ตัวดำเนินการอ้างอิง ซึ่งใช้เพื่อระบุจุดตัดโดยนัยในสูตร |
การใช้งาน Operators ใน Excel
เวลาเขียนสูตรต่าง ๆ ใน Excel ต้องมี = นำหน้าเสมอ เมื่อคุณใส่ = จะเป็นการบอกให้ Excel รู้ว่า สิ่งที่จะตามมาคือสูตร ถ้าคุณต้องการจะแสดงสัญลักษณ์ = ไม่ใช่การเขียนสูตร จะต้องใส่เครื่องหมาย ‘ กำกับให้รู้ว่าเป็นข้อความ
เวลาเขียนสูตรต่าง ๆ ใน Excel ต้องมี = นำหน้าเสมอ เมื่อคุณใส่ = จะเป็นการบอกให้ Excel รู้ว่า สิ่งที่จะตามมาคือสูตร ถ้าคุณต้องการจะแสดงสัญลักษณ์ = ไม่ใช่การเขียนสูตร จะต้องใส่เครื่องหมาย ‘ กำกับให้รู้ว่าเป็นข้อความ
สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเป็นอย่างแรกก็คือ เวลาเราใช้ตัวดำเนินการในสูตร มันจะมีการเรียงลำดับการดำเนินการทีละขั้น ตามลำดับ อันดับแรก Reference operators คือ ทวิภาค หรือ colon (:) วรรค หรือ space ( ) และ จุลภาค หรือ comma (,)
จากนั้นจะเรียงลำดับดังนี้
ประเภท | คำอธิบาย |
---|---|
: (colon) | Reference operators |
(single space) | |
, (comma) | |
– | Negation (as in –1) |
% | Percent |
^ | Exponentiation |
* and / | Multiplication and division |
+ and – | Addition and subtraction |
& | Connects two strings of text (concatenation) |
= | Logical/Comparison Operators |
< > | |
<= | |
>= | |
<> |
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Order of Operators ได้ที่ Wikipedia
ถ้าสูตรมีตัวดำเนินการที่มีลำดับความสำคัญเท่ากัน จะเริ่มคำนวณจากซ้ายไปขวา
ยกตัวอย่างเช่น
5+4*3/2
ผลลัพธ์จะได้เท่ากับ 11 เพราะ ลำดับความสำคัญของ คูณ และ หาร จะมาก่อน บวก และ ลบ และ ถ้ามี ความสำคัญเท่ากับ จะดำเนินการจากซ้ายไปขวา
ลำดับความสำคัญของสูตรคำนวณนี้ จะเริ่มที่ คูณ และ หาร โดยจะเริ่มคำนวณจากการคูณ (เพราะ เป็นการดำเนินการแรกจากทางซ้าย) คือ 4 คูณ 3 แล้ว หาร 2 จากนั้นจึงนำไปดำเนินการในลำดับต่อไป คือ บวก 5
แต่ถ้าต้องการกำหนดให้ดำเนินการในส่วนใดก่อนเป็นพิเศษ ให้ใช้ วงเล็บ กำกับ
อย่างเช่น
(5+4)*3/2
ผลลัพธ์จะได้เท่ากับ 13.5 เพราะจะนำ 5 บวก 4 ก่อน แล้วจึงคูณด้วย 3 หารด้วย 2